~ เปิดละคร Boys Over Flower อย่างเป็นทางการ

(F4) มินโฮ-ฮยอนจุง-คิมบอม-คิมจุน และ คูเฮซอน ร่วมงานแถลงข่าว

คูเฮซอน (Ku Hye Sun), อีมินโฮ (Lee Min Ho), คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong),

คิมบอม (Kim bum) และ คิมจุน (Kim Jun) ร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวละครเรื่อง Boys Over Flower

(꽃보다 남자) ทาง KBS 2TV อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2551 เวลา 14.00 น.

ณ ห้องคริสตัลบอลลูม โรงแรมล้อตเต้ กรุงโซล

คิมฮยอนจุง เมื่อถูกนักข่าวถามว่า "รับงานละครเรื่องแรกรู้สึกอย่างไรบ้าง?" เขากล่าว

" มีหลายคนแสดงความเป็นห่วงครับที่แค่ละครเรื่องแรกก็ต้องเป็นละครฟอร์มใหญ่

อย่าง Boys Over Flower แล้ว แต่เพื่อทำให้ทุกคนไม่ต้องกังวลมากเกินไป

ผมก็ได้พยายามฝึกซ้อมอย่างหนักเลยทีเดียวครับ" เสริม "ผมจะเป็นริว(ยุนจีฮู) ที่ดู

เป็นธรรมชาติให้ทุกคนได้เห็นแน่นอนครับ"

เขากล่าวต่อ "ก่อนที่ผมจะเข้าฉาก ผมอ่านบทของผมมากกว่า 100 รอบเลยครับ" เสริม

"ตอนที่ผมอยู่ที่ญี่ปุ่น ผมก็ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้มาแล้ว ทั้งละครในเวอร์ชั่นไต้หวันกับญี่ปุ่น ผมก็ได้ดูมาแล้ว

ด้วยครับ ส่วนเวอร์ชั่นการ์ตูน ผมก็ซื้อมาตั้งแต่เล่มแรกถึงเล่มสุดท้าย ไว้อ่านตอนมีเวลาว่างครับ"

เผยให้เห็นถึงการทำการบ้านมาเป็นอย่างดี

เมื่อถูกถามถึงสองสาวที่ต้องรับบทคู่ด้วยอย่าง ฮันแชยอง และ คูเฮซอน เขากล่าว "ผมต้องมีฉากกอด

กับฮันแชยองครับ แต่กับคูเฮซอนนี่มีฉากจูบเลยครับ มันเป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากๆครับ

โดยเฉพาะการได้แสดงกับคุณฮันแชยองที่ได้รับฉายาว่าตุ๊กตาบาร์บี้ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกดีมากครับ"

เมื่อถูกถามถึงกับเพื่อนๆ F4 คนอื่นๆ "ในตอนแรกผมรู้สึกว่าตัวละครมันแปลกๆครับ เวลาเข้ากองครั้งแรก

ผมหัวเราะจนเหนื่อยเลยทีเดียวครับ แต่พอเราก็ได้ร่วมรับประทานอาหารกันบ่อยมากขึ้น หลังจากนั้นทำ

ให้ผมรู้สึกว่าพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน และยิ่งการได้ใช้เวลาถ่ายทำละครกันในต่างประเทศอีกนับเดือน

ทำให้เราสนิทสนม กันมากขึ้นไปอีกครับ"

Boys Over Flowers หรือ Hana Yori Dango เป็น การ์ตูนขายดีต้นฉบับจากประเทศญี่ปุ่นที่พิมพ์

ออกไปต่างประเทศกว่า 17 ประเทศ และก็เคยมีการดัดแปลงมาทำเป็นบทละคร และประสบความสำเร็จ

มาเป็นอย่างมากก่อนหน้านี้กับเวอร์ชั่นไต้หวัน ในปี 2001 และเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ในปี 2005

Boys Over Flowers เตรียมลงจอให้ชมกันวันที่ 5 มกราคม 2552 เวลา 21.55 น. ทาง KBS 2TV

(ซ้ายไปขวา) คิมจุน คิมบอม คูเฮซอน อีมินโฮ และ คิมฮยอนจุง

***************************yurii_ja

ที่มา : PINGBOOK ENTERTAINMENT

~ Meteor Garden กำลังจะมาแล้วในเวอร์ชั่นเกาหลี

เมื่อหลายปีก่อน หลายคนคงจะจำกันได้กับละครไต้หวันที่โด่งดังมากในประเทศไทย

Meteor Garden หรือ รักใสๆ หัวใจสี่ดวง ที่ฉายทางไทยทีวีสีช่อง 3

ซึ่งทำให้ตอนนั้น กระแสวงบอยแบนด์อย่าง F4 ฟีเวอร์อย่างมากในประเทศไทย

และแล้ว เรื่องนี้จะถูกนำมาทำใหม่ ในเวอร์ชั่นเกาหลี รายการจากสำนักข่าวเกาหลีว่า

เรื่องนี้จะมีทั้งหมด 24 ตอน แต่ยังไม่ประกาศว่าใครจะเป็นคนแสดงนำ

Meteor Garden ดัดแปลงมาจากการ์ตูนของประเทศญี่ปุ่น และสามารถชนะใจคนดู

ได้อย่างงดงาม นำแสดงโดย Vanness Wu, Vic Zhou, Jerry Yan และ Ken Chu

จากวง F4 และสาวน้อย Barbie Hsu ออกอากาศครั้งแรกเมื่อปี 2001

**********************************************yurii_ja

ข้อมูลจาก

http://www.koreasarang.com

~ เลิฟซีนร้อน “ไจ่ไจ๋-หลี่ปิงปิง”

เลิฟซีนร้อน “ไจ่ไจ๋-หลี่ปิงปิง”

นัวเนียๆ บาดตาจริงๆ เล่นละครจอแก้วมาก็มาก มาคราวนี้ไจ่ไจ๋ F4 (โจวอี๋ว์หมิน) กระโดดลงเล่นหนังจอเงินบ้าง ในภาพยนตร์เรื่อง Linger 《蝴蝶飞》 ของ ผู้กำกับตู้ฉีฟง ประกบคู่กับนางเอกหลี่ปิงปิง โดยมีกำหนดเข้าฉายไปเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ฮ่องกง สิงคโปร์ และ 11 มกราคมที่แผ่นดินใหญ่ และไต้หวัน ไจ่ไจ๋ ตัดสินใจมาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ เรียกได้ว่า “สละชีพเพื่องานศิลปะ” ก็ว่าได้ ไม่เพียงเข้าฉากแสดงเป็น “ศพคนตาย” และลงไปนอนในโลงเท่านั้น หนุ่มไจ๋ ที่ไม่ค่อยเล่นบทเลิฟซีนเผ็ดร้อนเมื่อเทียบกับพี่ใหญ่ของวงอย่าง เจอร์รี่ ก็ต้องมานัวเนียดุเดือดบนเตียงกับ หลี่ปิงปิง ซึ่งเคยมีข่าวกุ๊กกิ๊ก กับเพื่อนร่วมวงอย่าง เคน F4 ด้วย แว่วมาว่าฉากนี้เป็นฉากแรกที่ทั้งสองคนเริ่มถ่ายด้วยกันเลยทีเดียว ทั้งสองคนไม่ทราบมาก่อนว่าฉากแรกของเรื่องเป็นฉากเลิฟซีน นึกว่าผู้กำกับจะให้พวกเขาเล่นฉากอื่นก่อน รอจนพวกเขาคุ้นเคยกันก่อน แล้วจึงค่อยกลับมาถ่ายทำฉากที่ต้องใกล้ชิดกันขนาด นี้ ดังนั้นพอรู้เข้าจึงแปลกใจมาก หลี่ปิงปิงอธิบายความรู้สึกตอนนั้นว่า “ ตอนนั้นฉันตื่นเต้นมากๆ ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักไจ่ไจ๋มาก่อน ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าจะถ่ายทำฉากนี้กับไจ่ไจ๋อย่างไร ตอนหลังเพิ่งมารู้ว่า ไจ่ไจ๋ตื่นเต้นยิ่งกว่าฉันเสียอีก เกือบลืมบทหมด อีกอย่างโชคดีก่อนถ่ายทำ ผู้กำกับสั่งให้ทีมงานชาย 2 คนขึ้นไปลองเซ็ตท่าบนเตียงแบบอกแนบอก ท่าทางที่เก้ๆ กังๆ และเก้อเขินของพวกเขา ทำเอาทุกคนตรงนั้นหัวเราะท้องแข็ง ไปเลย ทำให้พวกเรารู้สึกผ่อนคลายลงได้บ้าง” ด้าน ไจ่ไจ๋ ซึ่งไม่ค่อยถ่ายฉากเลิฟซีนดุเดือดแบบนี้กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ เครียดมากเลยครับ หลายคนคิดว่าถ่ายฉากเลิฟซีน ผู้หญิงคงจะเครียดกว่าผู้ชาย แต่ผมบอกเลยว่า พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว ผู้ชายเครียดกว่าผู้หญิงฟันธง เพราะพวกเรากลัวจะถูกอีกฝ่ายเข้าใจผิด โชคดีที่ครั้งนี้ปิงปิงเขาเป็นฝ่ายเข้ามายั่วยวนผมก่อน ฮะฮะฮะ” งานนี้หนุ่มไจ๋ยังออกปากชมฝีมือการแสดงของฝ่ายหญิงว่า “เธอเป็นมืออาชีพมาก ก่อนถ่ายทำเธอยังหน้าตาเครียดอยู่เลย แต่พอเริ่มถ่ายทำเท่านั้น ก็สามารถอินกับตัวละครที่แสดง ทำเอาผมนับถือมากๆ แต่ฉากบนเตียง ทำให้พวกเรากังวลมากๆ เลย เพราะเตียงเหมือนจะรับน้ำหนักเราสองคนไม่ไหว เสียงดังเอี๊ยดอ๊าดตลอด กลัวว่าแอคชั่นมาก เตียงจะพังเอา”

หลี่ปิงปิง

ไจ่ไจ๋

************************************************

ข้อมูลจาก

http://www.manager.co.th

~ “ไจ่ไจ๋-ต้าเอส” ประกาศรักสะบั้น

“ไจ่ไจ๋-ต้าเอส” ประกาศรักสะบั้น ลือหึ่งเหตุฝ่ายชายไม่อยากแต่งงาน

ปิดฉาก “ตำนานรักต่างวัย” โดยสมบูรณ์หลังโดนกระแสข่าวลือ “รักๆ เลิกๆ”

กระหน่ำมาพักใหญ่ โดยวานนี้ (14 ม.ค.) ระหว่างร่วมกิจกรรมที่ฮ่องกง

ผู้ช่วยของ ต้าเอส (สีว์ซีหยวน) ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ต้าเอสวัย 31 ปี

กับแฟนหนุ่มรุ่นน้อง ไจ่ไจ๋ (โจวอี๋ว์หมิน) วัย 26 ปีได้เลิกกันแล้ว

และเมื่อสอบถามไปยัง จือเซี่ยงหลี่ ผู้จัดการส่วนตัวของไจ่ไจ๋ ก็ยอมรับว่าข่าวนี้เป็นเรื่องจริง

เช่นกัน แต่เนื่องจาก ไจ่ไจ๋ เดินทางไปโปรโมทอัลบั้มเพลงใหม่ที่หนันจิง ประเทศจีน

จึงต้องรอให้เดินทางกลับไต้หวันก่อนจึงจะให้สัมภาษณ์ได้

จากข่าวดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์สาเหตุรักอับปางครั้งนี้ว่า

อาจเป็นเหตุผลเดียวกับที่ต้าเอสเคยเลิกหลันเจิ้งหลง แฟนหนุ่มคนก่อนมาแล้ว

ด้วยเหตุที่ว่าฝ่ายหญิงอยากแต่งงาน แต่ไจ่ไจ๋ยังไม่มีความคิดจะสละโสด

จึงเป็นชนวนสะบั้นสัมพันธ์ครั้งนี้

ด้านคุณแม่ของต้าเอสออกมาปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว โดยกล่าวว่า

“จะแต่งหรือไม่แต่งไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือทั้งสองคนงานยุ่งมาก

อยากจะทำงานก่อน ดังนั้นจึงตัดสินใจแยกทางกัน”

เมื่อถามคุณแม่ว่ารู้สึกเสียดายว่าที่ลูกเขยคนนี้หรือไม่ คุณแม่ก็ตอบว่า

“พรหมลิขิตก็เป็นแบบนี้แหละ หลังจากนี้ทั้งคู่ก็ยังเป็นเพื่อน

ที่จริงใจต่อกัน ช่วยเหลือให้กำลังใจซึ่งกันและกัน”

ออกมาเป็นระยะ โดยเฉพาะเมื่อไม่นานมานี้ที่ต้าเอสไปร่วมกิจกรรมหนึ่ง

นักข่าวถามเธอว่าปีใหม่ปี ที่แล้วเธอซื้อนาฬิกาใหม่ให้คุณพ่อและไจ่ไจ๋

แล้วปีนี้คิดจะซื้อให้ไจ่ไจ๋อีกหรือไม่ ต้าเอสตอบทันทีว่า “ไม่บอกคุณหรอก”

นักข่าวถามต่อเกี่ยวกับเรื่องที่หมอดูเคยทายว่า ถ้าปีนี้ทั้งสองคนไม่แต่งงานกัน

ก็จะเลิกรากัน ต้าเอสก็ตอบว่า “ปีนี้ยังไม่มีความคิดที่จะแต่งงาน”

หรือแม้แต่คำให้สัมภาษณ์ของต้าเอสก่อนหน้านี้ที่ว่า

“จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าไม่ต้องแต่งงานก็ดีเหมือนกัน!”

“ดูแลคนอื่น ไม่สู้ให้คนอื่นดูแลและรักเราดีกว่า”

สำหรับต้าเอสซึ่งเป็นคนบ้าเรื่องแต่งงานมาก ถือว่าคำพูดนี้ไม่ใช่คำพูดธรรมดาเลยทีเดียว

ไม่เพียงแต่ฝั่งต้าเอสเท่านั้น เคยมีข่าวว่าไจ่ไจ๋เคยระบายให้เพื่อนฟังว่า

“ ต้าเอสกับแม่ของเธอล้วนเป็นผู้ใหญ่ มักมองข้ามความรู้สึกของเขา พวก

เธอมักจะเรียกให้ทำนู่นทำนี้ ขนาดเพื่อนๆ ของไจ่ไจ๋อยู่ด้วยก็ไม่เว้น

แม้เขาจะรู้สึกรำคาญ แต่ก็ได้แต่ก้มหน้าทำตามโดยไม่ปริปาก”

เมื่อสอบถามไปทางทีมงานละครเรื่อง “เจ้อหลี่ฟาเซี่ยนอ้าย” ที่ไจ่ไจ๋แสดงนำ

ทางทีมงานก็เล่าว่าระยะแรกก็เห็น ต้าเอส มาเยี่ยมที่กองถ่ายบ้าง แต่จนกระทั่งวันนี้

เป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว ไม่เคยเห็นเงาของต้าเอสเลย

เพื่อนของไจ่ไจ๋เปิดเผยว่า ก่อนที่หนุ่มไจ๋จะเดินทางไปโปรโมทงานเพลงที่แผ่นดินใหญ่

ได้ตัดสินใจแยกทางกัน ปิดตำนานรัก 2 ปี 5 เดือนอย่างสมบูรณ์

ทั้งนี้ ไจ่ไจ๋และต้าเอส เคยร่วมงานกันในละครเรื่อง รักใสๆ หัวใจ 4 ดวง ทั้ง 2 ภาค

ต่อมาได้รับบทพระ-นางคู่กันตามเสียงลุ้นของบรรดาแฟนๆ ในละครเรื่อง Mars

โดยความสัมพันธ์ของทั้งสองที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดีมาตลอดเหมือนพี่สาวกับน้อง ชาย...

ทั้งคู่เริ่มปลูกต้นรักกันหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างตกอยู่ในสภาพอกหัก รักคุดทั้งคู่

โดยไจ่ไจ๋เคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาเพิ่งรู้สึกว่าต้าเอสสำคัญกับเขาเมื่อครั้งเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ

และต้าเอสเป็นห่วงเป็นใยรีบรุดไปที่เกิดเหตุทันที.....น่าเสียดายแอบลุ้นคู่นี้มานาน

*****************************************

ข้อมูลจาก

http://www.manager.co.th